โรงงานผลิตอาหาร
โรงงานผลิตอาหาร การผลิตอาหารให้มีความปลอดภัยต่อผู้ซื้อจำต้องประพฤติตามมาตรฐานต่างๆซึ่งแต่ละมาตรฐานมีหลักเกณฑ์ที่แตกต่างออกไป ทั้งนี้ระบบคุณภาพที่เป็นหลักฐานสำคัญยกตัวอย่างเช่น Good Manufacturing Practice (GMP) แม้กระนั้นดังนี้ด้วยเหตุว่ามีการชิงชัยในการผลิตของกินที่สูงขึ้น ทั้งยังผู้บริโภคยังมีความต้องการให้ผู้สร้างกระทำผลิตตามมาตรฐานที่สูงเพิ่มมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ผู้สร้างจำเป็นต้องมีการจัดทำระบบประสิทธิภาพอื่นๆที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ โรงงาน ผลิตอาหาร และความก้าวหน้าผลิตอาหารสู่มาตรฐานระดับสากลต่อไป ระบบประสิทธิภาพอื่นๆในโรงงานอาหารที่มีความจำเป็น ยกตัวอย่างเช่น Hazard Analysis and Critical Control Point (HACCP), ISO 9001, British Retail Consortium (BRC), International Food Standard (IFS), ISO 22000 เป็นต้น
หลักเกณฑ์และก็วิธีที่เยี่ยมสำหรับเพื่อการผลิตของกิน
หลักเกณฑ์และวิธีที่เยี่ยมสำหรับในการผลิตของกิน (Good manufacturing practice: GMP)เป็นหลักเกณฑ์แล้วก็กรรมวิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร เป็นหลักเกณฑ์หรือหลักเกณฑ์ขั้นต้นที่จำเป็นต้องสำหรับการผลิตและควบคุม เพื่อผู้สร้างประพฤติตาม รวมทั้งทำให้ผลิตอาหารได้โดยสวัสดิภาพ GMP เป็นระบบประกันคุณภาพพื้นฐานที่จำเป็นจะต้องสำหรับในการผลิต
ก่อนจะทำให้เกิดระบบประกันคุณภาพอื่นๆที่สูงขึ้นถัดไปสำหรับเมืองไทย โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดหลักเกณฑ์แนวทางการที่ดีในการผลิตของกินกล่าวถึงสุขลักษณะทั่วๆไป ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 193 พ.ศ. 2543 เรื่อง กระบวนการผลิต อุปกรณ์ เครื่องใช้สอยสำหรับเพื่อการผลิต
และการเก็บรักษาอาหาร สำหรับของกินปริมาณ 57 กรุ๊ป อาทิเช่น น้ำแข็ง น้ำบริโภคในภาชนะใส่ที่ปิดสนิท สินค้าของนม ชา กาแฟ อาหารแช่เยือกแข็ง ฯลฯ รวมทั้งอีกจำพวกคือ GMP ที่เป็นกฎเกณฑ์เฉพาะของผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีกฎระเบียบเพิ่มจาก GMP ทั่วไป โดย GMP ทั้ง 2 ประเภทเป็นตามกฎหมายของประเทศไทย โดยอ้างอิงหลักเกณฑ์ทั่วๆไปด้านสุขลักษณะของกินของ Codex Alimentarius Commission ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล
กฎเกณฑ์ของระบบ GMP ตาม Codex มี 8 หัวข้อดังต่อไปนี้
1) การสร้างในขั้นต้น (Primary production) เกี่ยวโยงกับสุขลักษณะของสิ่งแวดล้อม การผลิตอย่างถูกสุขลักษณะของแหล่งของกิน การปฏิบัติต่ออาหาร การเก็บรักษาแล้วก็การขนส่ง แนวทางการทำความสะอาด การบำรุงรักษาและความถูกอนามัยอนามัยเฉพาะบุคคล
2) สถานที่ประกอบการ: การออกแบบและก็อุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวก (Establishment: Design and Facilities) เกี่ยวพันกับสถานที่ อาคารสถานที่ประกอบการ และก็ห้องต่างๆวัสดุรวมทั้งภาชนะ และก็เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวก
3) การควบคุมการปฏิบัติงาน (Control of Operation) เกี่ยวข้องกับการควบคุมอันตรายของของกิน จุดสำคัญของระบบการควบคุมถูกหลักอนามัย เช่น การควบคุมอุณหภูมิรวมทั้งเวลา หลักเกณฑ์ด้านจุลชีวันและอื่นๆการควบคุมการปนเปื้อนทางด้านกายภาพ เคมี จุลินทรีย์ กฎระเบียบการจัดหารวมทั้งรับสิ่งของ การบรรจุ น้ำ น้ำแข็ง ไอน้ำที่ใช้สำหรับเพื่อการผลิต การจัดการแล้วก็การควบคุมดูแล เอกสารแล้วก็บันทึกข้อมูล แล้วก็แนวทางการเรียกคืน
4) สถานที่ประกอบการ: การซ่อมและเขตสุขาภิบาลโรงงาน (Establishment: Maintenance and Sanitation) เกี่ยวเนื่องกับการซ่อม ดูแลเครื่องจักรรวมทั้งวัสดุอุปกรณ์การผลิต การทำความสะอาดและทำลายเชื้อรอบๆผลิต เครื่องจักร เครื่องมือ แล้วก็ภาชนะต่างๆการควบคุมสัตว์พาหะนำเชื้อ การควบคุมกำจัดของเสีย การพิจารณาคุณภาพของระบบการสุขาภิบาลโรงงาน
5) สถานที่ทำการ: ความถูกอนามัยเฉพาะบุคคล (Establishment: Personal Hygiene) เกี่ยวกับสุขภาพ การเจ็บป่วยแล้วก็เจ็บ อุปนิสัยส่วนตัว กฎระเบียบด้านการแต่งกาย การล้างมือ การกินอาหาร และก็หลักเกณฑ์ของผู้ที่เยี่ยมชมสถานที่ผลิต
6) การขนส่ง (Transportation) เกี่ยวเนื่องกับข้อเสนอแนะสำหรับการขนส่ง กฎเกณฑ์การออกแบบพาหนะหรือตู้ขนส่ง การตรวจดูผู้ขนส่ง และการพิจารณาการขนส่งผลิตภัณฑ์ โดยใคร่ครวญธรรมชาติของของกินแล้วเลือกใช้แนวทางขนส่งที่เหมาะสม ตู้ขนส่งมีความแข็งแรง ทำความสะอาดง่าย มีการควบคุมอุณหภูมิการขนส่ง มีเครื่องมือบันทึกข้อมูล เป็นต้น
7) ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้ารวมทั้งการผลิตความเข้าใจให้ลูกค้า (Product Information and Consumer Awareness) เกี่ยวโยงกับการกำหนดรุ่นผลิตภัณฑ์ ข้อมูลของสินค้า การแสดงฉลาก การให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ใช้
8) การฝึกอบรม (Training) เกี่ยวกับการจัดฝึกหัดแก่พนักงานผู้เกี่ยวข้อง สร้างสามัญสำนึกรวมทั้งความรับผิดชอบ อบรมเพื่อฟื้นฟูความรู้ที่เกี่ยวกับงาน การจัดทำแผนการฝึกหัด
เอกสารที่เกี่ยวกับระบบ GMP เป็นต้นว่า
- การตรวจรับวัตถุดิบ
- การคาดคะเนผู้ขาย
- การสอบเทียบอุปกรณ์
- การควบคุมแก้ว กระจก พลาสติกแข็ง
- การเรียกคืนผลิตภัณฑ์
- การควบคุมสารเคมี
- มาตรฐานกรรมวิธีดำเนินงาน
- การควบคุมน้ำใช้ น้ำแข็ง แล้วก็ไอน้ำ
- การกักและก็ปล่อยผลิตภัณฑ์
- การทำความสะอาด
- การควบคุมสัตว์พาหะนำเชื้อ
- การกำจัดขยะ ของเสีย
- การซ่อมแซม
- การทวนสอบ
- การควบคุมความถูกอนามัยส่วนบุคคล
- การขนส่ง การชี้บ่งและก็สอบกลับได้ของสินค้า
- การจัดการกับข้อร้องเรียน
- การฝึกอบรม
- การควบคุมเอกสารรวมทั้งบันทึก
ปัจจุบันนี้ Functional Drinks ในประเทศไทย แบ่งออกดังนี้
1.Sport Drink เป็นเครื่องดื่มชนิดเกลือแร่ ช่วยทดแทนเกลือแร่ที่ร่างกายเสียไป
2.Energy Drink เป็นเครื่องดื่มที่ผสมสารอาหาร วิตามิน และก็กรดอะมิโน ช่วยสร้างเสริมความสามารถร่างกาย
3.Enriched Drink เป็นเครื่องดื่มที่ผสมสารอาหาร วิตามิน รวมทั้งอื่นๆที่มีสาระต่อสถาพทางร่างกาย เพื่อช่วยเสริมด้านสุขภาพ ต้านทานอนุมูลอิสระ และสลายไขมัน เป็นต้น
4.Herbal Drink เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่ใช้สมุนไพรเป็นหลัก ช่วยรักษา รวมทั้งปกป้องโรคต่างๆ
5.Beauty Drink เป็นเครื่องดื่มที่ผสมสารอาหาร เพื่อเสริมด้านความงาม และก็สุขภาพสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
นอกเหนือจากนั้นยังมี Functional Drinks ที่เป็นหมวดหมู่ย่อยๆอีกเช่น
1.Functional Drinks ที่ช่วยด้านบำรุงสมอง เพิ่มความจำ
2.Functional Drinks ที่ช่วยด้านช่วยทำให้หลับพักสบาย หลับง่าย
3.Functional Drinks ที่ช่วยด้านสร้างความสมดุลให้ร่างกาย ให้ร่างกายมีชีวิตชีวา
การรับประทานสินค้าเสริมอาหารให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
1.ควรจะเลือกรับประทานสินค้าเสริมของกินให้ถูกชนิดและก็เหมาะสมกับคนรับประทาน ทั้งยังทางด้านอายุ สภาพร่างกายแล้วก็การดำนงชีพ
2.สินค้าเสริมของกินไม่สามารถที่จะตอบแทนอาหารหลักได้ ผู้รับประทานจำเป็นจะต้องกินอาหารหลักให้ครบทั้ง 5 หมู่ด้วย
3.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจัดเป็นของกินในกลุ่มที่มีจุดประสงค์พิเศษ ที่ตั้งใจให้สารอะไรบางอย่างเท่านั้น ซึ่งอาจมีอันตรายกับคนรับประทานบางคน จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานเพื่อความปลอดภัย
วิธีการสำหรับเลือกซื้อสินค้าเสริมของกินก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรพิเคราะห์รายละเอียดดังต่อไปนี้
1.จำเป็นต้องรับประทานหรือเปล่า ถ้าสามารถทานอาหารหลักได้ครบ 5 หมู่อย่างเพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ มีร่างกายแข็งแรง ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อสินค้าเสริมของกินมารับประทานแต่อย่างใด เพราะนอกจากจะเป็นการสุรุ่ยสุร่ายโดยใช่เหตุ อาจจะทำให้เราได้รับสารนั้นในจำนวนที่มากเกินกว่าที่ร่างกายอยากได้ได้
2.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่ใช่ยารักษาโรค การรับประทานเพื่อหวังผลในการรักษาโรคใดโรคหนึ่งนั้นย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ ผู้รับประทานจำต้องเล่าเรียนหาข้อมูลก่อนที่จะตัดสินใจ สามารถสอบถามมายัง สายด่วน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา1556 หรือขอคำแนะนำแพทย์รวมทั้งเภสัชกรก่อน
3.ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารส่วนใหญ่สกัดมาจากธรรมชาติ แม้กระนั้นก็อาจก่อให้เกิดการแพ้หรือมีผลใกล้กันได้ จึงต้องควรระวังถ้าหากเคยแพ้ของกินหรือสารบางสิ่งบางอย่างมาก่อน จำเป็นต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งว่าแพ้ยาหรืออาหารชนิดใดบ้าง
4.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมักมีราคาแพง คนรับประทานควรจะคิดถึงผลดีรวมทั้งความปลอดภัยที่จะได้รับว่าคุ้มกับเงินที่จ่ายไหม เพราะเหตุว่าพวกเราสามารถรับสารอาหารได้จากอาหารหลักทุกวัน โดยการรับประทานให้ครบทุกกลุ่ม
5.ผลิตภัณฑ์เสริมของกินที่เลือกซื้อ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้วเท่านั้น เพื่อรับรองความปลอดภัยแล้วก็คุณภาพของสินค้า เพราะฉะนั้นจำเป็นจะต้องเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีการแสดงเลขทะเบียนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแน่ชัด แล้วก็แสดงฉลากอย่างถูกต้องครบถ้วน