gps 2021
gps 2021 เทคโนโลยีภายในรถยนต์ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งสำหรับในการช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นและก็ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการขับขี่ ด้านในอนาคตเร็วๆนี้ รถยนต์ของพวกเราคงจะจึงควรเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตสำหรับเพื่อการปฏิบัติงาน เพื่อใช้งานได้หลายหลายมากขึ้นไปอีก แล้วก็ 6 สิ่งจำต้องไปนี้ เป็นเทคโนโลยีใหม่สุดล้ำ ที่คาดว่าจะถูกพัฒนามาใช้กับรถยนต์ที่โลกอนาคต
1. เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยสำหรับในการสตาร์ทรถยนต์รถยนต์แบบใหม่ๆนั้น เริ่มแปลงมาใช้ระบบ Keyless เยอะขึ้นเรื่อยๆเพราะระบบดังที่กล่าวมาข้างต้นทำให้รถยนต์ใช้งานได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเพียงแต่กดปุ่มสำหรับในการสตาร์ทเครื่องยนต์ แทนการใช้กุญแจในแบบเดิมๆสำหรับบิดสตาร์ท
ซึ่งการทำงานของระบบ Keyless ก็คือ รถยนต์จะตรวจสอบก่อนว่ามีรีโมทอยู่ใกล้กับรถยนต์หรือเปล่า ก่อนจะปลดล็อคระบบเพื่อให้เจ้าของรีโมทสามารถใช้งานรถได้ตามแต่ละฟังก์ชั่นอย่างไรก็ดี ระบบ Keyless นี้ก็มีช่องโหว่อยู่บ้าง เพราะเหตุว่าเป็นสาเหตุให้เกิดการขโมยที่มากขึ้น
โดยอาศัยการดักจับคลื่นความถี่ของรีโมทที่เชื่อมต่อมายังรถยนต์บริษัทรถชื่อดังอย่าง Hyundai ได้พัฒนาแอปพลิเคชั่นขึ้นมาเพื่อใช้งานสำหรับปลดล็อคฟังก์ชั่นต่างๆในรถยนต์ เป็นระบบเดียวกับที่บริษัทดังอย่าง Tesla ใช้งานอยู่ ระบบดังที่กล่าวถึงมาแล้วนี้เป็นแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน
ที่เชื่อมต่อไปยังรถยนต์ด้วย NFC โดยเมื่อรถยนต์เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแล้วก็จะสามารถใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆได้เหมือนกันกับ Keyless แม้กระนั้นปลอดภัยมากกว่า เนื่องจากว่าการดักจับสัญญาณ NFC นั้นจะต้องผ่านความปลอดภัยอีกขั้นข้างในตัวสมาร์ทโฟนแบบ Biometric
2. ระบบตรวจสอบความสามารถของคนขับขี่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตามพื้นที่ต่างๆทั้งโลกนั้น ส่วนใหญ่สาเหตุมักจะมาจากความสามารถสำหรับการขับขี่ที่ต่ำลงในขณะขับขี่รถของผู้ขับที่ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการพักผ่อนน้อย โรคประจำตัว หรือจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนมีผลให้สมรรถภาพในการขับรถนั้นต่ำลง แล้วก็บางทีอาจถึงขนาดเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงได้ แต่ว่าเทคโนโลยีของยานยนต์ที่ล้ำขึ้นไปอีก จะสามารถตรวจตราความเมื่อยล้าของคนขับเหล่านี้ได้อย่างเที่ยงตรงค่ายรถยนต์อย่าง Volvo และ GM
ได้นำเทคโนโลยีเกี่ยวกับเรื่องการตรวจดูความสามารถของคนขับขี่มาใช้งาน มีการติดตั้งกล้องถ่ายรูปข้างในห้องโดยสารเพื่อรอสำรวจปฏิกิริยาของคนขับขี่ โดยเฉพาะการมองมองเห็นผ่านการตรวจจับตาดำ แม้พบว่าการมองเห็นของผู้ขับชี่ต่ำลงหรือมีลักษณะอาการหลับตาเป็นเวลานาน ระบบจะทำเตือน และก็แม้ว่าเตือนแล้วยังไม่มีการโต้ตอบกลับ ระบบจะกระทำการหยุดรถยนต์โดยอัตโนมัติแล้วปิดเครื่องลง ก่อนจะติดต่อประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวโยงถัดไป.
3. เทคโนโลยี AR บนกระจกหน้ารถยนต์การนำระบบ AR มาช่วยสำหรับในการขับรถ ซึ่งจะช่วยทำให้กำเนิดคุณภาพสำหรับเพื่อการขับรถที่มากขึ้น เพราะว่าระบบ AR นี้ จะช่วยทำให้ผู้ขับขี่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องละสายตาจากกระจกหน้ารถเพื่อไปดูเครื่องใช้ไม้สอยอื่นๆตัวอย่างเช่น
อุปกรณ์นำทาง GPS โดยลูกศรสัญลักษณ์นำทางจะปรากฎอยู่บนกระจกบานหน้าของรถแทน และข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้
4. ระบบรถยนต์ไม่มีคนขับที่อัจฉริยะยิ่งขึ้นระบบรถยนต์ไร้คนขับ (Driverless) เป็นที่กล่าวถึงกันอย่างยิ่งในระยะนี้ แต่ว่าก็ยังเจอความไม่ถูกต้องของระบบอยู่บ้าง ผู้สร้างองค์ประกอบรถยนต์อย่าง Manga International กำลังพัฒนาระบบที่มีชื่อว่า Icon Radar
ซึ่งจะเป็นเซ็นเซอร์อัจฉริยะ สามารถแยกวัตถุ 2 อย่างที่มีความคล้ายกัน แต่เนื้อหาแตกต่างกัน อาทิเช่น ผู้ที่กำลังเดินข้ามถนน กับคนที่กำลังยืนรอรถยนต์อยู่ริมถนน โดยสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเรื่องความปลอดภัยและก็ความสามารถสำหรับการใช้งานแบบ Driverless
5. หน้าขอสัมผัสที่ขนาดใหญ่ขึ้นสำหรับรถยนต์แบบใหม่ต้องการจอแสดงผลลัพธ์ที่ใหญ่ สามารถควบคุมได้อีกทั้งรูปแบบการทำงานของเครื่องปรับอากาศ วิทยุ สื่อบันเทิงต่างๆรวมถึงการแสดงผลของการใช้งานต่างๆในรถยนต์ ดังเช่นว่า อัตราการใช้เชื้อเพลิง หรือประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่
แต่ว่าอย่างไรก็ตามจอกลุ่มนี้ที่มีการใช้งานอยู่มักจะมีขนาดไม่เกิน 7 นิ้ว แม้ว่าการใช้งานจะดูพอดีกับการใช้งาน แต่ว่าการสัมผัสเพื่อสั่งต่างๆบนหน้าจอขนาดเล็ก ยังถือเป็นเรื่องยาก
Tesla ได้นำเสนอไอเดียใหม่ในการใช้จอแสดงผลลัพธ์สัมผัสที่มีขนาดใหญ่ถึง 14 นิ้ว ซึ่งใกล้เคียงกับทีวีขนาดเล็ก ช่วยให้มองเห็นได้แจ้งชัด สัมผัสได้ง่ายดายกว่า แต่ก็ยังมีอีกหลายข้างที่กลัวว่าการสัมผัสหน้าจอระหว่างขับขี่รถ จะมีผลให้ได้รับอันตรายได้ง่าย
ที่ตรงนี้เองทำให้มีการเพิ่มระบบผู้ช่วยเข้ามาอย่าง Amazon Alexa, Google Assistant, Apple Siri ช่วยทำให้การใช้แรงงานหน้าจอนั้นมีความสะดวกและปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
6. ระบบอื่นๆสำหรับในการช่วยเหลือผู้ขับชี่ถึงแม้ว่าระบบรถยนต์ไร้คนขับจะสามารถช่วยทำให้ขับขี่ได้ง่าย สะดวกแล้วก็ไม่เป็นอันตรายมากยิ่งขึ้น แต่ระบบไร้คนขับก็ยังจำต้องปฏิบัติงานร่วมกับระบบช่วยเหลืออื่นๆอย่างเช่น ระบบแจ้งเตือนการเปลี่ยนเลน
ระบบตรวจจับวัตถุที่ใกล้ เป็นต้น ซึ่งค่ายรถยนต์หลายๆบริษัทได้มานะหาระบบช่วยเหลือการขับขี่เพื่อเข้ามาเสริมสมรรถนะทั้งยังในด้านการขับขี่แล้วก็ความปลอดภัย โดยผู้สร้างรถยนต์กำลังพยายามที่จะทำให้ระบบเบรครีบด่วนเป็นวัสดุอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถยนต์ทุกคันด้านในกันยายน 2022
กำจัดกลิ่นอับข้างในรถของพวกเรากลิ่นอับภาพ เหม็นอับข้างในห้องโดยสารของรถยนต์นั้น ผู้คนจำนวนมากอจาจจะกำลังเจอกับปัญหานี้อยู่และบางครั้งอาจจะยังไม่รู้ถึงแนวทางการกำจัดกลิ่นว่าจะเอาไงดี พวกเราก็เลยมีวิธีมานำเสนอว่าจะทำเช่นไรได้บ้างเพื่อจะขจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในรถของพวกเราออกไปแต่ว่าอย่างไร
ก็แล้วแต่ขอบอกไว้ก่อนว่าเหม็นอับในรถของพวกเรานี้ ชอบมีต้นเหตุที่เกิดจาก 2 มูลเหตุใหญ่ๆคือ จากระบบปรับอากาศ และก็จากในห้องขึ้นรถเอง ซึ่งการแก้ไขปัญหาที่จะแนะนำนี้ จะย้ำไปที่การจัดการภายในห้องโดยสารก่อน ซึ่งถ้าหากทำตามอย่างการแนะนำเบื้องต้นแล้วยังไม่หาย
บางทีอาจจะควรจะมีการทำความสะอาดตามระบบปรับอากาศของรถยนต์เราอีกครั้งใบชาแห้ง ให้นำใบชาแห้งห่อผ้าแล้วมาวางเอาไว้ภายในห้องโดยสาร ส่วนปริมาณในการใช้นั้น ก็ให้มองว่าห้องโดยสารมีพื้นที่ใหญ่ขนาดไหน และก็มีกลิ่นเหม็นอับมากน้อยเท่าใดถ่าน
ถ่านไม้นั้นเพียงนำไปห่อผ้าแล้ววางทิ้งเอาไว้ในรถยนต์ของเรา ราว 2-3 วัน ถ่านไม้นี้จะสามารถดูดกลิ่นอับให้ต่ำลงได้กากกาแฟตากแห้ง สามารถนำกากกาแฟตากแห้งแล้วห่อผ้ามาวางเอาไว้ในรถ เพื่อช่วยสำหรับเพื่อการจัดแจงกับเหม็นอับได้ โดยกากกาแฟนี้ขอซื้อได้ตามร้านขายกาแฟ
หรือบางร้านค้าบางทีอาจจะให้ฟรีเลยสเปรย์ดับกลิ่น สามารถหาซื้อได้ง่ายตามห้างทั่วไป ซึ่งนอกเหนือจากที่จะช่วยในการดับกลิ่นอับข้างในรถยนต์แล้ว บางตัวยังสามารถช่วยสำหรับในการกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ด้วยน้ำส้มสายชู น้ำส้มสายชูนับว่าเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งในการขจัดกลิ่นอับภายในห้องโดยสารได้
สำหรับวิธีการก็แค่เพียงนำน้ำส้มสายชู 2-4 ช้อนโต๊ะ ใส่ถ้วยแล้วค่อยนำไปวางเอาไว้ภายในรถยนต์ของคุณทิ้งไว้ราว 1-2 ชั่วโมง ความเปรี้ยวของน้ำส้มสายชูนี้จะช่วยดูดเหม็นอับด้านในรถยนต์ให้หายไปได้เบกกิ้งโซดา หรือที่เราเรียกกันว่าผงฟู ใช้ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
ใส่ภาชนะมาวางเอาไว้ในรถ ช่วยดูดเหม็นอับต่างๆให้หายไปได้ และก็ยังกลิ่นเหม็นจากบุหรี่ด้วยดอกไม้หรือสมุนไพรต่างๆ อาทิเช่น ใบเตย ใบมะกรูด ดอกมะลิ เหล่านี้เมื่อเอามาเอาไว้ในรถยนต์ จะมีกลิ่นหอบช่วยกลบกลิ่นเหม็นต่างๆออกไปได้ โดยพืชพวกนี้จะมีน้ำมันหอมระเหยตามธรรมชาติที่ปล่อยออกมา ซึ่งนอกเหนือจากการที่จะกลิ่นหอมยวนใจแล้วยังช่วยทำให้พวกเรารู้สึก relax ได้ดีอีกด้วย
4 หุ่นยนต์-ใช้งานแทนมนุษย์ ในการจัดแจง
Warehouseในตอนนี้ได้มีการพากเพียรสำหรับลดขั้นตอนสำหรับเพื่อการดำเนินการแต่ละอย่างลงเรื่อยโดยงานที่ชอบโดนแทรกแซงเป็นกลุ่มแรกๆก็อาจจะหนีไม่พ้นงานที่ทำในลักษณะประจำ แบบเดิมๆซ้ำๆของมนุษย์ ซึ่งเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นเรื่อยๆก็ได้มีการสร้างเครื่องไม้เครื่องมือที่มาปฏิบัติงานแทนมนุษย์
เพราะนอกจากในเรื่องของประสิทธิภาพในการดำเนินการที่หุ่นยนต์สามารถทำเป็นดียิ่งกว่าในงานอะไรบางอย่าง ยังรวมถึงเรื่องของความปลอดภัยรวมทั้งสิ่งแวดล้อม ที่เหล่าหุ่นยนต์ชอบได้รับการสร้างมาเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ดีต่อสภาพสิ่งแวดล้อม แล้วก็นี่คือ 4 ตัวอย่างของการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้สำหรับเพื่อการจัดแจงเรื่องคลังที่มีไว้สำหรับเก็บสินค้า และช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นในการทำงานดีขึ้น
1. หุ่นยนต์สำหรับถือผลิตภัณฑ์ในช่วงเวลานี้ในระบบการจัดการคลังเก็บสินค้าหลายๆที่ หลายๆบริษัท ได้มีการเปลี่ยนมาใช้หุ่นยนต์สำหรับการถือผลิตภัณฑ์ตามออเดอร์แทนการใช้แรงงานคนแล้ว โดยเหล่าหุ่นยนต์นี้ชอบเป็นรถเข็นซึ่งสามารถเขยื้อนไปเองได้ในคลังที่เอาไว้เก็บสินค้า
ด้วยการประมวลผลผ่านเซ็นเซอร์ต่างๆจึงช่วยทำให้สามารถจับสินค้าตามรายการต่างๆได้อย่างถูกต้องรวมทั้งยังทุ่นเวลาสำหรับการปฏิบัติงานอีกด้วย ซึ่งมาจากการคำนวณเวลาด้วยระบบ AI ที่มนุษย์นั้นเป็นเพียงผู้ควบคุมและป้อนคำสั่ง ก็เลยใช้งานได้ง่าย และผู้ใช้งานก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมีความถนัดคอมพิวเตอร์ขั้นสูงก็สามารถใช้งานได้
2. ฟอร์คลิฟท์(forklift) ที่สามารถเคลื่อนเองได้ฟอร์คลิฟท์ขับเองนั้น เหมาะสมกับคลังที่มีไว้เก็บสินค้าที่มีการดำเนินการในแบบอย่างเดิมซ้ำเป็นแพทเทิร์น แม้กระนั้นมีระยะสำหรับเพื่อการเขยื้อนที่ออกจะไกล ผู้สร้างฟอร์คลิฟท์หลายๆราย ได้ผลิตฟอร์คลิฟท์ที่มีระบบระเบียบเลเซอร์สำหรับการนำทาง
สแกนได้ทั้งด้านหน้าแล้วก็หลัง มีกล้อง 3 มิติ สำหรับการคำนวณ รวมถึงมีความรู้และความเข้าใจสำหรับในการแจ้งเตือนเพื่อความปลอดภัย สแกนสิ่งกีดขวางแล้วก็เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ได้ด้วยตนเอง ซึ่งฟอร์คลิฟท์อย่างงี้สามารถขนส่งพาเหรด
สำหรับเพื่อการใส่ผลิตภัณฑ์ได้ระยะทางกว่าหลายร้อยเมตร หรือบางรุ่นก็มีระบบระเบียบเรดาห์สำหรับในการพินิจพิจารณาสิ่งแวดล้อมรอบๆ วางแผนทางการเคลื่อนที่ gps ติดตามรถยนต์ วางแผนปฏิบัติงานได้ กำหนดแผนการเข้าแท่นเพื่อชาร์ทพลังงาน อีกทั้งเชื่อมต่อกับระบบข้อมูล ERP ด้านในองค์กรได้ด้วย
3. หุ่นยนต์สำหรับจัดการสินค้าในสต็อกสำหรับปัญหาเรื่องการนับสต๊อก เจ้าหุ่นยนต์สามารถที่จะสามารถที่จะสแกน RFID เพื่อตรวจนับสินค้าได้ในเวลาเพียงไม่นาน หุ่นยนต์ตัวนี้สามารถที่จะสแกนสินค้าได้จากระยะห่างถึง 25 ฟุต ซึ่งนอกเหนือจากที่จะตรวจนับสินค้าได้อย่างเร็วแล้ว
ยังช่วยในเรื่องเกี่ยวกับการกำหนดแผนการสั่งซื้อได้ด้วย ลดความบกพร่องจากแนวทางการทำงานของมนุษย์ลง อาทิเช่น การนับผลิตภัณฑ์บกพร่องจากปัญหา barcode ของรายการสินค้านั้นใกล้เคียงกัน แล้วก็แม้หุ่นยนต์สำหรับในการปฏิบัติงานประเภทนี้จะมีราคาสูงขึ้นมากยิ่งกว่า $50,000
แต่ลูกค้าที่ใช้งานก็สามารถประหยัดเงินไปได้มากมายจากการลดปริมาณคนทำงานลง รวมทั้งมีส่วนสำหรับในการช่วยลดจำนวนของเสียลงด้วย รวมถึงการมีข้อมูล insight ที่จะประยุกต์ใช้สำหรับการพินิจพิจารณาปัญหาหรือปรับเปลี่ยน layout ของโกดังเก็บสินค้าเพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นได้ด้วย
4. เครื่องบินขับอัตโนมัติกว่าที่ Drone จะสามารถส่งสินค้าขนาดใหญ่ไปตามสถานที่ต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็น่าจะจะต้องใช้เวลาอีกครู่หนึ่งใหญ่ๆแม้กระนั้นสิ่งที่มีในช่วงเวลานี้เป็นเรือบินที่ขับได้อย่างอัตโนมัติ ปฏิบัติภารกิจสำหรับในการสแกน RFID
ในกุดังได้ Real Time ช่วยให้ผู้ควบคุมสามารถป้อนคำบัญชาตรวจนับสินค้าในคลังได้ ทั้งยังมีระบบระเบียบ sensor และก็ระบบประมวลผลของตัวเครื่องที่สามารถปกป้องการชน คุ้มครองการบกพร่องสำหรับเพื่อการบินข้างในคลังเก็บสินค้าแต่ละแห่งที่มีลักษณะแตกต่างได้ซึ่งที่กล่าวมีถึงหุ่นยนต์ทั้งยัง 4 ตัวนี้
จะเป็นแค่เพียงเล็กน้อยของการใช้เทคโนโลยีในการจัดการคลังที่เอาไว้สำหรับเก็บสินค้า รวมทั้งแน่ๆว่าในอนาคตการจัดการงานเหล่านี้อาจมีหุ่นยนต์ คงจะมีเทคโนโลยีเข้ามาแทรกแซงแนวทางการทำงานของมนุษย์อีกเยอะแยะ
หยุดรถยนต์ตากฝน สีลอกได้ด้วยหรอ? การจอดรถยนต์ตากฝนบ่อยๆนั้น หลายคนคงเคยทราบมาว่าจะทำให้สีรถหมอง เสียสภาพหรือลอกได้ ทำให้คนอีกหลายๆคนอาจจะกลัวที่จะจอดรถตากฝนไปเลย วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันว่าการจอดรถตากฝนนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้สีรถยนต์เสียสภาพเดิมไปได้จริงๆหรอฝนนั้น
ทำให้หมองโดยธรรมดาแค่เพียงฝนจะไม่อาจจะทำให้สีของรถพวกเรานั้นลอกได้ แม้กระนั้นฝนนั้นทำให้รถยนต์ของเรานั้นหมองนั้นมีส่วนจริง เนื่องจากการจอดรถตากฝนแล้วจะมีเศษดินเศษทราย คราบสกปรกต่างๆมาติดที่รถของเรา ซึ่งจะพิจารณาได้ว่าวันใดที่พวกเราจอดรถตากฝนแล้วฝนตกใส่
จากตอนแรกที่รถยนต์สะอาดๆแต่เพียงพอฝนหยุดตกแล้วรถแห้ง ก็จะมีรอยเปื้อนดิน คราบเปื้อนทรายติดอยู่ตามรถยนต์เราเยอะไปหมด คราบสกปรกเหล่านี้ล่ะที่ทำให้รถยนต์ของพวกเราดูหมองลงนั่นเอง โดยเพียงเราล้างรถอาทิตย์ละครั้ง
ก็จะช่วยให้ให้สีสันของรถเรากลับมาผ่องใสงดงามได้แล้วถ้าเกิดเป็นฝนกรดหละแม้กระนั้นฝนกรดนั้นเป็นข้องดเว้น เนื่องจากฝนกรดนั้นมีสารเคมีไนเตรดและก็ซัลเฟตที่มีฤทธิ์สามารถกัดกร่อนสีผิวของรถยนต์ได้ อาทิเช่นในต่างประเทศเคยมีกรณีรูปปั้นโดนฝนกรดกัดกร่อนจนเสียหายมาแล้ว
ซึ่งแม้ในไทยจะยังไม่เคยพบเหตุฝนกรดที่รุนแรงขนาดนี้ แต่ว่าก็สามารถปกป้องสีของรถยนต์พวกเราไว้ก่อนได้อีกชั้น เพียงแต่การลงทุนฉาบสีของรถยนต์พวกเราเสริมเติม จะช่วยทำให้สีนั้นแข็งแรงแล้วก็ทรงสภาพใกล้กับรถยนต์ของเราได้มากขึ้นอีกแนวทางหนึ่งในระยะยาวแสงแดด
นี่แหละปัญหาตัวจริงแสงอาทิตย์นี่อันตรายกว่าฝนเสียอีก โดยรังสี UV จากแสงอาทิตย์จะทำให้สีรถนั้นซีดเผือดได้ไวขึ้น ยิ่งจอดตากแดดเป็นระยะเวลาที่ยาวนานสียิ่งซีดเผือดไว นอกนั้นแล้วความร้อนจากแดดยังเป็นเหตุให้สภาพยางของรถยนต์เสื่อมเร็วขึ้น ทั้งได้ผลสำเร็จเสียกับสภาพเครื่องยนต์ด้วย ทางที่ดีจำเป็นที่จะต้องหาที่จอดในร่มหรือถ้าหาที่หยุดในร่มมิได้จริงๆก็ควรซื้อผ้าคลุมรถยนต์ดีๆเพื่อมาช่วยสำหรับการคุ้มครองรถยนต์ของพวกเราอีกทางหนึ่ง