profender pantip ความละมุนละไมของการขับขี่’ (Ride Comfort) เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็เข้าทาง ‘ช็อค-อัพกระบอกคู่’ ทันทีทันใด เนื่องจากว่าช็อค-อัพกระบอกคู่นั้น
profender pantip อค-อัพ แบบไหน เหมาะสมกับรถบ้าน?สำหรับรถยนต์บ้าน ใช้งานโดยทั่วไปแล้ว ปัจจัยหลักขั้นตอนแรกก็คือ ‘ความละมุนละไมของการขับขี่’ (Ride Comfort) เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็เข้าทาง ‘ช็อค-อัพกระบอกคู่’ ทันทีทันใด เนื่องจากว่าช็อค-อัพกระบอกคู่นั้น สามารถให้ความนุ่มนวลสำหรับในการขับรถได้ดียิ่งไปกว่า และก็มีคงทนถาวรมากยิ่งกว่า ยิ่งกว่านั้นยังมีต้นทุนการสร้างที่ต่ำกว่าอีกด้วย
ช๊อค-อัพ OEM กระบอกคู่ของ HONDA JAZZ GEด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งผองนี้ ทำให้รถยนต์นั่งส่วนตัวในตอนนี้ ต่างมาพร้อมกับช็อค-อัพแบบกระบอกคู่นั่นเองขอรับช็อค-อัพ แบบไหน เหมาะกับรถแต่งสายสตรีท?สำหรับรถยนต์แต่งสายสตรีท ที่ต้องการทั้งยัง ‘ความนิ่มนวล’ สำหรับในการใช้งานในชีวิตประจำวัน และ ‘สมรรถนะการขับขี่’ ด้วยเหตุผลดังกล่าว
มันก็เลยนับว่าเป็นอะไรที่ออกจะสลับซับซ้อนในการที่จะตัดสินใจว่า โช๊ค profender monotube subtank ราคา ช๊อค-อัพแบบไหน ที่เหมาะสมกับรถสายสตรีทแม้กระนั้น หลายต่อหลายผู้สร้างช๊อค-อัพ ได้แนะนำเป็นเสียงเดียวกันว่า ช็อค-อัพแบบกระบอกคู่นั้น เหมาะสมกับสายสตรีทที่สุดแล้ว ด้วยความที่การขับขี่บนถนนโดยธรรมดานั้น จำเป็นต้องเจอทั้งยังหลุม-ทั้งยังบ่อ ทางต่างระดับ และก็ลูกระนาด ซึ่งการขับชี่ในรูปแบบนี้ จำเป็นต้องอาศัยช็อค-อัพที่มีสโตรคอย่างเพียงพอ ด้วยเหตุดังกล่าวแล้ว ช็อค-อัพแบบกระบอกคู่ที่มีความหนืดสูงขึ้นมากยิ่งกว่าธรรมดา จึงเหมาะสมกับรถแต่งสายสตรีทมากกว่า
ช๊อค-อัพ TEIN STREET ADVANCE (กระบอกคู่) ของ SUBARU BRZแต่สำหรับขาซิ่งที่ย้ำความสามารถการใช้แรงงาน ก็บางครั้งก็อาจจะเล็งไปที่กระบอกเดี่ยวก็ไม่ผิดครับ …สรุปว่าถ้าหากใครเน้น ‘ความนุ่มนวล’ ย้ำการใช้งานในชีวิตประจำวัน ขับในเมืองเป็นหลัก ก็จัดแบบกระบอกคู่ แต่ถ้าหากใครกันแน่เน้น ‘ความสามารถ’ วิ่งเซอร์กิตถี่ๆลงแทร็คเดย์เป็นประจำก็จัดแบบกระบอกโดดเดี่ยวไปเลย จะได้จบๆช็อค-อัพ แบบไหน เหมาะสมกับรถแข่งเซอร์กิต?สำหรับในการแข่งจำพวกเซอร์กิตแล้ว
การเข้าโค้งอย่างเนื่องนั้น มีผลทำให้น้ำมันช็อคมีอุณหภูมิสูงมากขึ้นอย่างมากมาย อีกทั้งยังต้องพบกับความร้อนที่ระบายมาจากจานเบรก ทำให้น้ำมันช็อค ยิ่งร้อนขึ้นไปอีก ด้วยเหตุนั้น ช็อค-อัพสำหรับรถแข่งก็เลยจะต้องสามารถระบายความร้อนได้อย่างเร็ว และก็คุณลักษณะนี้ ก็อยู่ในช็อค-อัพแบบกระบอกคนเดียวนั่นเองนะครับ โน่นทำให้ช็อค-อัพกระบอกลำพัง profender pantip โช๊ค profender monotube subtank ราคา ช่วงล่าง profender กลายมาเป็นขวัญใจของนักซิ่งเซอร์กิต และก็เป็นไอเทมที่ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดเลยในแวดวงมอเตอร์สปอร์ต
ช๊อค-อัพ Bilstein กระบอกโดดเดี่ยว ติดตั้งใน SILVIA S15 ของ
‘อันเดอร์ ซูซุกิ’นอกนั้นแล้ว ช็อค-อัพกระบอกเดี่ยว ยังมีวาล์วลูกสูบที่ใหญ่มากยิ่งกว่ารวมทั้งแข็งแรงกว่า ซึ่งทำให้มันสามารถรับแรงกดแบบกระแทกได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งแรงประเภทนี้ จะเกิดขึ้นขณะรถแข่งไต่เอเป็กซ์นั่นเองครับถึงแม้ว่าช็อค-อัพแบบกระบอกเดี่ยว จะมีสโตรคที่น้อยกว่า แม้กระนั้นสำหรับเพื่อการแข่งในเซอร์กิตแล้ว การวิ่งบนแทร็คพื้นเรียบนั้น ไม่ต้องใช้สโตรคที่มากมาย ด้วยเหตุดังกล่าว ข้อด้อยในเรื่องของสโตรค จึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับรถแข่งจำพวกเซอร์กิตนั่นเองนะครับข้อสรุปจะมองเห็นได้ว่า ทั้งยังช็อค-อัพแบบกระบอกโดดเดี่ยว รวมทั้งกระบอกคู่
ต่างก็มีข้อเด่น-เสียเปรียบ ที่ไม่เหมือนกัน โน่นทำให้ช็อค-อัพแต่ละแบบ มีความเหมาะสมในการใช้งานในลักษณะที่แตกต่างกัน โดยเหตุนี้ เราไม่สามารถพูดได้เต็มปาก…หรือตัดสินได้อย่างเด็ดขาด ว่า ช็อค-อัพแบบไหน…ที่เหนือกว่ากัน… เพราะช็อค-อัพทั้งสองแบบ ต่างมีลักษณะเด่นที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนั่นเองครับผมในเนื้อหานี้
ผมกำลังจะกล่าวถึงหลักการเซ็ทอัพช่วงล่างในแง่ของความสามารถเป็นหลักครับผม ซึ่งรายละเอียดในบทความนี้เป็นเพียงแค่วิชาความรู้ระดับพื้นฐานเพียงเท่านั้น โดยหวังว่าท่านผู้อ่านจะได้รับความเข้าใจและสามารถนำเอาวิชาความรู้ไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดครับผมสำหรับใน
เนื้อหานี้ ผมจะใช้รูปภาพของรถแข่งล้อเปิด
หรือรถแข่งฟอร์มูล่า มาประกอบบทความ โดยมีจุดประสงค์เพื่อที่จะให้เห็นภาพได้เด่นชัดขึ้นครับ ซึ่งวิธีการทั้งปวงในบทความนี้ สามารถนำไปดัดแปลงกับรถยนต์ทั่วๆไปได้แบบ 100% เลยนะครับ
การเซ็ทอัพตอนล่าง…คืออะไรหลายท่านที่ยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า ตอนล่าง (Suspension) หรือ ระบบกันสะเทือน ก็บางทีอาจจะงวยงงว่า…พวกเราจะสามารถเซ็ทอัพ หรือเปลี่ยนแปลงตอนล่างได้ยังไง ดังนั้น เราจะมานิยามคำว่า เซ็ทอัพช่วงล่าง แบบสั้นๆเข้าใจง่ายๆกันนะครับการเซ็ทอัพช่วงล่าง คือ การปรับตั้งมุมล้อ การปรับความหนืดของช็อค-อัพ แล้วก็การ
ปรับความแข็งแรง-อ่อนของสปริง เพื่อเพิ่มสมรรถนะการยึดเกาะถนนให้ได้มากที่สุด แต่ สำหรับบทความในตอนที่ 1 ของ เบื้องต้นการเซ็ทอัพตอนล่าง ผมจะจุดโฟกัสไปที่การปรับตั้งมุมล้อเพียงแค่นั้นครับผม…เพราะเหตุไรจำต้องเซ็ทอัพตอนล่างวัตถุประสงค์ของการเซ็ทอัพตอนล่าง ก็คือเพื่อ หน้ายาง (Tire Surface) สัมผัสกับพื้นแบบ 100%
ในทุกสถานการณ์การขับขี่ ไม่ว่าจะรีบหรือจะเบรก จะเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา เมื่อยางสามารถสัมผัสกับผิวแทร็คได้อย่างเต็มเปี่ยมแล้ว ก็จะเป็นเหตุให้เกิด แรงยึดเกาะสูงสุด (Maximum Grip) โดยแรงยึดเกาะนี้จะช่วยให้รถแข่งสามารถเข้าโค้งได้เร็วขึ้น ทำให้เวลาต่อรอบเจริญขึ้นนั่นเองครับ ฉะนั้น profender pantip โช๊ค profender monotube subtank ราคา ช่วงล่าง profender เราสามารถสรุปได้ว่า ตอนล่างที่ดี คือช่วงล่างซึ่งสามารถดึ
งเอาสมรรถนะของยางมาใช้ได้อย่างสูงสุด โดยทำให้หน้ายางสัมผัสพื้นมากที่สุด นั่นเองครับผมและในเนื้อหานี้ ผมก็จะพาไปทำความรู้จักกับ มุมล้อ ทั้งยังสามแบบ ซึ่งมุมล้อทั้งยัง 3 ประเภทนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับในการเซ็ทอัพตอนล่าง มุมแต่ละมุมนั้นเป็นยังไงบ้าง…แล้วมีผลยังไงกับรถยนต์บ้าง ทดลองไปทำความเข้าใจกันมองครับผม
1. มุมแคมเบอร์ (Camber Angle)มุมแคมเบอร์หมายคือมุมที่วัดระหว่างแนวเส้นศูนย์กลางยาง (แนวดิ่ง) กับเส้นตั้งฉากของถนนหนทาง หากมุมดังกล่าวมาแล้วข้างต้นมีค่าเป็นศูนย์แล้ว พวกเราจะเรียกการเซ็ทอัพนี้ว่า
Zero Camber หรือแคมเบอร์เป็นศูนย์นั่นเองครับผม แต่ว่าหากว่าล้อมีแนวทางการทำมุมกับเส้นตั้งฉาก โดยที่ด้านบนของยางเอียงออกมาจากบอดี้ของตัวรถ เราจะเรียกว่า Positive Camber (แคมเบอร์เป็นบวก) รวมทั้งตรงกันข้าม ถ้าหากว่าข้างล่างของยางเอียงออกมาจากบอดี้ของตัวรถยนต์ พวกเราจะเรียกว่า Negative Camber (แคมเบอร์เป็นลบ)
ปกติแล้วมุมแคมเบอร์จะเป็นปัจจัยสำคัญในการระบุ แรงยึดเกาะ หรือที่เรียกว่า Grip ดังนั้น การปรับตั้งองศาแคมเบอร์จึงถือเป็นอะไรที่สำคัญมากๆโดยเฉพาะ สำหรับรถแข่งรวมทั้งรถสมรรถนะสูง ที่ถูกดีไซน์มาให้เข้าโค้งด้วยความเร็วสูงๆธรรมดาแล้วมุมแคมเบอร์จะเป็นปัจจัยสำคัญในการระบุ แรงยึดเกาะ หรือที่เรียกว่า Grip ด้วยเหตุนั้น การปรับตั้งองศาแคมเบ
อร์ก็เลยถือเป็นอะไรที่สำคัญมากๆโดยเฉพาะ สำหรับรถแข่งและรถยนต์สมรรถนะสูง ที่ถูกดีไซน์มาให้เข้าโค้งด้วยความเร็วสูงๆแล้วเซ็ทอัพแคมเบอร์แบบไหน…ถึงจะได้ Grip สูงสุดผมเชื่อว่าหลายๆท่านจะตอบคำถามข้อนี้อย่างมั่นอกมั่นใจว่า Zero Camber ซึ่งเป็นคำตอบที่ ไม่ถูก ครับผม! จริงอยู่ที่ว่าการเซ็ทแคมเบอร์ให้เป็น ศูนย์ นั้น…จะทำให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นได้อย่างเต็มที่ แต่ข้อเท็จจริงก็คือว่า การเซ็ทอัพแบบ Zero Camber จะมีผลให้ยางจะสัมผัสกับผิวถนนแบบ 100%
ก็ต่อเมื่อรถยนต์วิ่ง “ทางตรง แค่นั้นขอรับและแน่นอนว่าสำหรับรถยนต์บ้านๆโดยส่วนใหญ่แล้ว เค้าก็จะเซ็ทอัพแคมเบอร์ให้มีค่าเป็น ศูนย์ มาตั้งแต่โรงงานเลยขอรับ แต่ทว่า…สำหรับรถแข่งที่จำเป็นต้องสาดโค้งด้วยความเร็วสูงแล้วล่ะก็…มันมีอะไรซับซ้อนกว่านั้น!โดยปกติแล้ว สำหรับรถแข่งจำพวกเซอร์กิตการเซ็ทอัพแคมเบอร์ให้มีค่าเป็นลบ (Negative Camber) จะส่งผลให้เกิดค่า Grip เยอะที่สุดเหตุผลก็เนื่องจาก เมื่อแคมเบอร์เป็นค่าลบแล้ว…ในระหว่างการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง แรงกระทำในแนวข้างๆหรือที่เรียกว่า Shear Force (เชียร์ ฟอร์ซ) จะผลักให้ตัวรถเอียงไปในฝั่งตรงข้
าม ซึ่งจะทำให้ค่าแคมเบอร์มีค่าเพิ่มขึ้น (จากเป็นลบ ก็จะเข้าใกล้ค่าศูนย์มากเพิ่มขึ้น)
ซึ่งจะก่อให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นแทร็คได้อย่างเต็มมากขึ้น ทำให้พวกเราได้ค่า Grip เยอะขึ้นเรื่อยๆนั่นเองครับ นอกจากแล้ว การเซ็ทอัพแคมเบอร์ให้เป็นลบยังมีผลต่อความเสถียรภาพของตัวรถยนต์ในขณะวิ่งทางตรงด้วยความเร็วสูงอีกด้วยครับ
แล้วมุมแคมเบอร์…จะต้องเป็นมากแค่ไหนล่ะคำถามนี้
ก็ไม่ได้มีคำตอบตายตัวครับ ด้วยเหตุว่ารถยนต์แต่ละคันนั้น มีความต่างในเรื่องของส่วนประกอบระบบกันสั่นสะเทือนอยู่แล้ว ด้วยเหตุผลดังกล่าว มุมแคมเบอร์ ที่เหมาะสมที่สุด ของรถยนต์แต่ละคันก็เลยไม่เท่ากันนะครับ แต่ว่ามีอยู่กระบวนการหนึ่งที่จะทำให้เราได้มาซึ่ง มุมแคมเบอร์ที่ดีที่สุด มันก็คือการวัดอุณหภูมิของหน้ายางนั่นเองครับผมหากว่า อุณหภูมิฝั่งข้างใน ร้อนกว่า ด้านนอก (มองภาพด้านบนประกอบ) มีความหมายว่าเวลานี้แคมเบอร์มีค่าน้อยเกินไป (ลบมากมายเกิน) ให้แก้โดยปรับตั้งแคมเบอร์ให้เป็น บวกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆถ้าว่า อุณหภูมิผิวฝั่งภายนอก
ร้อนกว่า ข้างใน มีความหมายว่าในขณะนี้แคมเบอร์มีค่าเยอะเกินไป (บวกมากเกิน) ให้แก้โดยปรับตั้งแคมเบอร์ให้เป็น ลบมากเพิ่มขึ้นถ้าว่า อุณหภูมิหน้ายาง มีค่าเสมอกันตลอด (ทั้งยังฝั่งด้านในและด้านนอก) แปลว่า มุมแคมเบอร์ที่พวกเราปรับตั้งนั้น สามารถใช้สมรรถนะของยางได้อย่างเต็มที่ profender pantip โช๊ค profender monotube subtank ราคา ช่วงล่าง profender นั่นถือได้ว่า มุมแคมเบอร์ในตอนนี้เป็นมุมที่ดีเยี่ยมที่สุดแล้ว สำหรับรถยนต์ของเรานะครับมุมโท (Toe Angle)มุมโท หมายความว่ามุมที่วัดระหว่างแนวเส้นศูนย์กลางยาง (แนวดิ่ง) กับแนวทางที่รถยนต์จะเขยื้อนนั่
นเองนะครับ สำหรับมุมโทก็จะสามารถแบ่งได้ 3 ชนิดเหมือนกันกับมุมแคมเบอร์ ซึ่งก็คือ Toe-in, Toe-out รวมทั้ง Zero Toe (มุมโทเป็นศูนย์)การปรับตั้งมุมโทนั้น จะทำให้เกิดผลเสียโดยตรงต่อความเสถียร แล้วก็การควบคุมของตัวรถยนต์ รวมทั้งน้ำหนักของพวงมาลัยด้วยครับ ซึ่งการเซ็ทอัพมุมโท-อิน และโทเอาท์นั้น ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงมุมโท-อิน (Toe-in) เรียกอีกอย่างว่า Positive Toe (โพสิครั้งฟ โท) คือ การเซ็ทอัพให้ด้านหน้าของล้อหุบเข้าหากัน โดยทั่วไปแล้ว
การเซ็ทอัพแบบนี้จะนำมาซึ่งการทำให้รถยนต์มีความเสถียรในทางตรงที่มากขึ้น
หรือกล่าวคือก็คือว่า มุมโท-อินจะบังคับให้รถจะวิ่งเป็นเส้นตรงสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจะมีผลดีในเรื่องของการควบคุมที่ความเร็วสูง และการรีบออกมาจากโค้งนั่นเองขอรับอย่างไรก็ดี การเซ็ทอัพมุมล้อให้เป็นโท-อินนั้น จะทำให้ตัวรถเปลี่ยนทิศทางได้ยากขึ้น (รถยนต์อุตสาหะจะวิ่งเป็นเส้นตรงตลอดระยะเวลา) ด้วยเหตุนี้ ตัวรถจะสนองตอบต่อพวงดอกไม้ได้ค่อนข้างช้ามุมโท-เอาท์ (Toe-out) เรียกอีกอย่างว่า Negative Toe (เนกาทีฟ โท) หมายถึง การเซ็ทอัพให้ส่วนหลังของล้อหุบเข้าพบกัน กา
รเซ็ทอัพแบบนี้จะให้ผลลัพทธ์ที่ตรงกันข้ามกับโท-อิน ซึ่งพูดได้ว่า รถที่เซ็ทมุมล้อให้เป็นโท-เอาท์ จะสามารถเปลี่ยนทิศทางได้อย่างเร็ว (หน้าไว) ซึ่งเหมาะสำหรับรถแข่งจำพวกเซอร์กิตที่จะต้องเข้าโค้งอย่างสม่ำเสมอ แต่ว่าแต่กระนั้น ถ้าเกิดเซ็ทอัพให้มุมโท-เอาท์มีค่ามากจนเกินความจำเป็น จะนำมาซึ่งการทำให้รถขาดเสถียรภาพที่ความเร็วสูง ซึ่งเป็นอะไรที่เราไม่อยากที่จะให้เกิดขึ้นโดยปกติแล้ว มุมแคสเตอร์เป็นอะไรเราไม่ค่อยจะชินหูสักเท่าไหร่ รวมทั้งมันยังเป็นมุมที่ปรับตั้งได้ยากมากมาย สำหรับรถยนต์บางรุ่นนั้น ไม่อาจจะปรับตั้งได้เลยขอรับ โดยมุมแคสเตอร์จะส่งผลสำคัญๆเกี่ยวกับเสถียรภาพของตัวรถ รวมไปถึงน้ำหนักของพวงดอกไม้ด้วยครับผม
แคสเตอร์เป็นบวก หรือ Positive-caster จะช่วยทำให้ทำให้รถมีความเสถียรขึ้นเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง แต่ว่าหากมุมแคสเตอร์มีค่ามากจนเกินไปจะส่งผลให้น้ำหนักพวงดอกไม้มากขึ้น ทั้งยังยังส่งผลให้ตัวรถยนต์สนองตอบต่อพวงมาลัยได้ช้าลงอีกด้วยสำหรับรถแข่งที่สามารถปรับตั้งมุมล้อได้แบบอิสระ อย่างเช่น รถแข่งจำพวกล้อเปิด รถยนต์เหล่านี้จะเซ็ทอัพ
ให้มุมแคสเตอร์มีค่าเป็นบวกนิดๆเพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการวิ่งที่ความเร็วสูงอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นครับสำหรับ มุมแคสเตอร์เป็นลบ หรือ Negative-caster นั้น จะมีผลให้ profender pantip โช๊ค profender monotube subtank ราคา ช่วงล่าง profender รถกำเนิดความไม่เสถียรทั้งยังความเร็วต่ำรวมทั้งความเร็วสูง พูดได้ว่าตัวรถนั้น พร้อมจะเลี้ยวออกมาจากแนวเส้นตรงตลอดระยะเวลา โดยเหตุนี้ รถยนต์แล้วก็รถแข่งโดยมาก จะหลบหลีกการเซ็ทอัพมุมแคสเตอร์ให้เป็นค่าลบนะครับ
